ซ่อมบำรุงอาคาร

CMMS ที่ดี ควรมีอะไรบ้าง?

ฟีเจอร์สำคัญที่ผู้จัดการอาคารยุคใหม่ควรรู้ ก่อนเลือกใช้งาน CMMS หรือ Computerized Maintenance Management Systemคือหัวใจของการบริหารงานซ่อมบำรุงยุคใหม่ ที่ช่วยให้คุณจัดการทุกคำสั่งงานได้อย่างเป็นระบบ แต่ในท้องตลาดมี CMMS หลากหลายเจ้าแล้ว “ระบบที่ดีจริง” ควรมีอะไรบ้าง? บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจฟีเจอร์สำคัญที่ CMMS ควรมีครบเพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และได้ระบบที่คุ้มค่าที่สุด ✅ 1. ระบบแจ้งซ่อม (Work Request) จุดเริ่มต้นของทุกงานซ่อมคือ ‘การแจ้งปัญหา’ ระบบที่ดีควร: Unizorn รองรับการแจ้งซ่อมทั้ง QR code, แอป และเว็บแอป ✅ 2. การจัดลำดับความสำคัญของงาน (Prioritization) ไม่ใช่งานทุกอย่างควรรีบทำพร้อมกัน ระบบควรให้คุณ: ช่วยลด Downtime และความเครียดจากงานที่ตกหล่น ✅ 3. ระบบ PM (Preventive Maintenance) บำรุงก่อนพัง = ประหยัดมากกว่า CMMS ควรมี: Unizorn มีฟีเจอร์ PM […]

ไขกุญแจสู่ประสิทธิภาพ: ทำไมการดูประวัติการซ่อมเครื่องจักรย้อนหลังจึงสำคัญ (และ Unizorn ช่วยได้อย่างไร)

ทำไมการดูประวัติการซ่อมเครื่องจักรย้อนหลังจึงสำคัญ? Unizorn: เพื่อนคู่คิดในการจัดการประวัติการซ่อมเครื่องจักรอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับธุรกิจที่กำลังมองหาเครื่องมือที่จะช่วยจัดการและวิเคราะห์ประวัติการซ่อมเครื่องจักรได้อย่างเป็นระบบ Unizorn คือคำตอบ ด้วยฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการบำรุงรักษาอาคารและเครื่องจักรอย่างครบวงจร Unizorn ช่วยให้คุณสามารถ: สรุป: การมองย้อนกลับไปในอดีต ไม่ได้หมายถึงการจมอยู่กับปัญหาเก่าๆ แต่เป็นการเรียนรู้และพัฒนาเพื่ออนาคต การมีระบบการจัดการประวัติการซ่อมเครื่องจักรที่มีประสิทธิภาพ เช่น Unizorn จะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องจักร และนำไปสู่การดำเนินงานที่ราบรื่นและยั่งยืนในระยะยาว อย่าปล่อยให้การขาดข้อมูลในอดีตฉุดรั้งศักยภาพของธุรกิจคุณ เริ่มต้นจัดการประวัติการซ่อมเครื่องจักรของคุณอย่างมีประสิทธิภาพด้วย Unizorn วันนี้!

Unizorn: เครื่องมือบริหารจัดการงานบำรุงรักษาอาคารวิศวกรรม ที่จะเปลี่ยนทุกอย่างให้ง่ายขึ้น

ในโลกของการบริหารจัดการอาคารวิศวกรรม ความท้าทายในการดูแลรักษาระบบที่ซับซ้อน การวางแผนงานซ่อมบำรุงที่แม่นยำ และการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ มักเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามและเวลาอย่างมาก แต่จะดีกว่าไหม… ถ้ามีเครื่องมือที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงทุกอย่างให้ง่ายขึ้น? ขอแนะนำ Unizorn โซลูชันบริหารจัดการงานบำรุงรักษาอาคารวิศวกรรมที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้นกว่าที่เคย! Unizorn คืออะไร? Unizorn ไม่ได้เป็นเพียงแค่ซอฟต์แวร์ แต่เป็น ระบบบริหารจัดการงานบำรุงรักษาอาคารวิศวกรรมแบบครบวงจร ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริหารอาคาร วิศวกร และทีมช่างโดยเฉพาะ เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของงานระบบในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ ระบบประปา ระบบดับเพลิง และอื่นๆ อีกมากมาย Unizorn จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็นศูนย์กลางในการจัดการทุกงานบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำไม Unizorn ถึง “เปลี่ยนทุกอย่างให้ง่ายขึ้น”? Unizorn เหมาะกับใคร? เปลี่ยนการบริหารจัดการอาคารของคุณให้ง่ายขึ้นได้แล้ววันนี้! บอกลาความยุ่งยากและซับซ้อนของการบริหารจัดการงานบำรุงรักษาแบบเดิมๆ ได้เลยครับ Unizorn พร้อมที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานของคุณง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

5 วิธีลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงอาคารในระยะยาว

ในฐานะผู้บริหารอาคารหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทรัพย์สิน การควบคุมและลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงถือเป็นเป้าหมายสำคัญที่ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดงบประมาณในระยะสั้น แต่ยังส่งผลดีต่อมูลค่าและอายุการใช้งานของอาคารในระยะยาวอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ อาจบานปลายและส่งผลกระทบต่อกระแสเงินสดขององค์กรได้ ดังนั้น การวางแผนและนำกลยุทธ์ที่เหมาะสมมาใช้จึงเป็นสิ่งจำเป็น บทความนี้จะนำเสนอ 5 วิธีสำคัญที่จะช่วยให้คุณลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุงอาคารได้อย่างยั่งยืน: 1. ลงทุนกับการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance – PM) หลายครั้งที่เรามักมองว่าการซ่อมเมื่อเกิดปัญหา (Reactive Maintenance) เป็นเรื่องปกติ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การรอให้เกิดความเสียหายก่อนแล้วค่อยซ่อมแซมนั้น มักจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่ามาก ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไหล่ ค่าแรง หรือแม้แต่ความเสียหายต่อเนื่องที่อาจเกิดขึ้นกับส่วนอื่น ๆ ของอาคาร การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน คือการวางแผนและดำเนินการตรวจสอบ บำรุงรักษาอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ของอาคารอย่างสม่ำเสมอตามรอบระยะเวลาที่กำหนด หรือตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตแนะนำ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหรือความเสียหายร้ายแรง การทำ PM อย่างสม่ำเสมอจะช่วย: ตัวอย่างการทำ PM: การตรวจสอบและทำความสะอาดระบบปรับอากาศทุก 3 เดือน, การหล่อลื่นมอเตอร์และชิ้นส่วนเคลื่อนไหวตามรอบ, การตรวจสอบระบบไฟฟ้าและประปาเพื่อหารอยรั่วหรือความผิดปกติ 2. ใช้ระบบบริหารจัดการงานบำรุงรักษา (Computerized Maintenance Management System – CMMS) ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานบำรุงรักษาเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม […]

บำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) คืออะไร?

และทำไมถึงช่วยลดต้นทุนงานซ่อมบำรุงได้จริง นโลกของงานซ่อมบำรุงอาคาร ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมหรืออาคารสำนักงาน “ค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน” มักเป็นต้นทุนแฝงที่ผู้จัดการอาคารมองข้ามไปแต่รู้ไหมว่า… 70–80% ของปัญหาเหล่านี้ สามารถป้องกันได้ตั้งแต่แรกด้วยแนวคิดที่เรียกว่า “การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน” (Preventive Maintenance) 🔎 Preventive Maintenance คืออะไร? Preventive Maintenance หรือ PM คือกระบวนการ ตรวจสอบ, ดูแล, และซ่อมบำรุงอุปกรณ์/ระบบต่าง ๆ ก่อนที่จะเกิดปัญหาโดยอิงตาม “รอบระยะเวลา” หรือ “จำนวนการใช้งาน” ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น: 💸 ทำไม PM ถึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย? เพราะการ “รอให้เสียก่อน” แล้วค่อยซ่อม = เสี่ยงต่อค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า 2–5 เท่าตัวอย่างเช่น: กรณี ไม่ทำ PM ทำ PM ลิฟต์เสีย ค่าอะไหล่ + ค่าแรง + ค่าเสียเวลา แค่ค่าน้ำมันหล่อลื่นและตรวจสอบรายเดือน แอร์พังกลางฤดูร้อน ลูกบ้านร้องเรียน […]

7 วิธีลดค่าใช้จ่ายงานซ่อมบำรุงในอาคารและคอนโด

🧱 7 วิธีลดค่าใช้จ่ายงานซ่อมบำรุงในอาคารและคอนโด เคล็ดลับที่ผู้จัดการอาคารยุคใหม่ต้องรู้! การบริหารจัดการอาคารไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะอาดหรือความเป็นระเบียบเท่านั้น แต่การควบคุม ค่าใช้จ่ายในงานซ่อมบำรุง ก็เป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงและประสิทธิภาพของอาคาร โดยเฉพาะในยุคที่ต้นทุนพุ่งสูงขึ้น ผู้จัดการอาคารและนิติบุคคลจำเป็นต้องปรับตัวและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย บทความนี้จึงรวบรวม 7 วิธีลดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมและงานบำรุงรักษาอาคารและคอนโด ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมแนวทางการประยุกต์ใช้ ระบบ CMMS (Computerized Maintenance Management System) อย่างมีประสิทธิภาพ 1. วางแผนบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) “กันไว้ดีกว่าแก้… ยังคงใช้ได้เสมอในวงการงานซ่อมบำรุง” การปล่อยให้อุปกรณ์หรือระบบในอาคารเกิดปัญหาแล้วค่อยซ่อม = ค่าใช้จ่ายสูงกว่า 3–5 เท่า เทียบกับการวางแผนตรวจเช็กล่วงหน้า เช่น: การมี ตาราง Preventive Maintenance อัตโนมัติ ผ่านระบบอย่าง Unizorn จะช่วยให้ทีมงานไม่พลาดการดูแลที่จำเป็น และลดงานซ่อมฉุกเฉินได้อย่างมาก 2. ใช้ระบบแจ้งซ่อมออนไลน์ แทนการใช้กระดาษหรือไลน์กลุ่ม ในหลายอาคารยังคงใช้วิธี “แจ้งซ่อมผ่านกระดาษ” หรือ “ส่งข้อความในกลุ่มไลน์” ซึ่งทำให้: ระบบแจ้งซ่อมของ Unizorn ช่วยให้ผู้พักอาศัยแจ้งปัญหาได้ผ่านมือถือทุกงานจะถูกเก็บเป็นระบบ […]

ความสำคัญของการบำรุงรักษาอาคาร

ในปัจจุบัน อาคารพักอาศัยมีจำนวนมาก โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่มีมากกว่า 30,000 โครงการ ซึ่งภายในอาคารเหล่านี้มีอุปกรณ์และเครื่องจักรที่มีมูลค่าสูง การบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้ อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบระบบในปัจจุบันยังคงเป็นรูปแบบเอกสาร ทำให้ไม่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เหตุใดจึงตัองเลือกใข้งาน ระบบ PM System แทน แมนนวลหรือระบบกระดาษ

ปรับปรุงความปลอดภัย ประหยัดต้นทุน * การป้องกันเทียบกับ การแก้ไข: การลงทุนในการบำรุงรักษาเชิงป้องกันมักจะมีราคาถูกกว่าการซ่อมแซมฉุกเฉินที่มีค่าใช้จ่ายสูง * การจัดสรรทรัพยากรที่ปรับให้เหมาะสม: การวางแผนและกำหนดเวลาที่มีประสิทธิภาพช่วยลดต้นทุนแรงงานและวัสดุ ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน ระบบ PM สามารถช่วยคุณจัดการได้อย่างไร

การเปรียบเทียบการบํารุงรักษาอุปกรณ์ภายในอาคารแบบใช้กระดาษ (แมนนวล) VS บนโปรแกรมซอฟต์แวร์ PM

เป็นแนวทางเชิงรุกในการบํารุงรักษาอุปกรณ์ที่มุ่งป้องกันและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ สามารถใช้ทั้งระบบบนกระดาษและระบบซอฟต์แวร์เพื่อใช้โปรแกรม PM ได้ อย่างไรก็ตาม แต่ละวิธี มีข้อดีและข้อเสีย ประโยชน์: ข้อเสีย: ประโยชน์: ข้อเสีย: ท้ายที่สุดแล้ว เป้าหมายคือการเลือกระบบ PM ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดเวลาหยุดทํางาน และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ของคุณ

การออกแบบระบบบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในอาคารชุด

ระบบบำรุงรักษาอุปกรณ์ภายในอาคารชุด มีบทบาทสำคัญในการรักษาสภาพการใช้งานของอุปกรณ์ต่างๆ ให้คงประสิทธิภาพ ยืดอายุการใช้งาน ลดความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา และสร้างความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย การออกแบบระบบบำรุงรักษาที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังนี้ 1. ประเภทของอุปกรณ์ อาคารชุดทั่วไปมักประกอบด้วยอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น ลิฟต์ ปั๊มน้ำ เครื่องปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า ระบบป้องกันอัคคีภัย ระบบรักษาความปลอดภัย CCTV ฯลฯ แต่ละประเภทของอุปกรณ์มีกลไกการทำงาน วัสดุที่ใช้ และความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาที่แตกต่างกัน 2. ระยะเวลาการใช้งาน อุปกรณ์แต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปแล้ว อุปกรณ์ที่มีกลไกไฟฟ้าหรือเครื่องจักรกล จะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าอุปกรณ์ที่เป็นโครงสร้าง 3. ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหา อุปกรณ์บางประเภทมีความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสูงกว่าอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลิฟต์ ปั๊มน้ำ เครื่องปรับอากาศ ระบบไฟฟ้า ฯลฯ 4. งบประมาณ งบประมาณสำหรับการบำรุงรักษาเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาในการออกแบบระบบ 5. กฎหมายและมาตรฐาน กฎหมายและมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของอาคารและอุปกรณ์ต่างๆ

Scroll to top